ความสำคัญของเสียง Mono ใน Mix ที่เป็น Stereo ตอนที่ 1
ในปัจจุบันเพลงส่วนมากจะ mix มาแบบ stereo
โดยที่มีข้อยกเว้นนิดหน่อยอย่างเช่นเพลง Californication
ของ Red Hot Chilli Peppers ที่เป็น Mono ซะส่วนใหญ่
โดยที่มีข้อยกเว้นนิดหน่อยอย่างเช่นเพลง Californication
ของ Red Hot Chilli Peppers ที่เป็น Mono ซะส่วนใหญ่
ซึ่งการเป็นซาวด์เอ็นจิเนียร์ที่ดีนั้นจะต้องรู้ว่าควรใช้ mono หรือ stereo อย่างไรใน mix
การมีเสียงบางเสียงใน mix ของเราเป็นโมโนจะทำให้ฟังดูเหมือนเสียงกว้างขึ้น
และการวางตำแหน่งใน mix stereo ในตำแหน่งที่ดี
จะทำให้ได้เสียงตรงกลางที่มีpunch และpresence มากขึ้นซึ่งจะทำให้เสียงแน่นและพุ่งขึ้น
มันสำคัญต่อเครื่องที่แพนไว้ตรงกลางเช่น bass, snare, kick และเสียงร้องนำ
การมีเสียงบางเสียงใน mix ของเราเป็นโมโนจะทำให้ฟังดูเหมือนเสียงกว้างขึ้น
และการวางตำแหน่งใน mix stereo ในตำแหน่งที่ดี
จะทำให้ได้เสียงตรงกลางที่มีpunch และpresence มากขึ้นซึ่งจะทำให้เสียงแน่นและพุ่งขึ้น
มันสำคัญต่อเครื่องที่แพนไว้ตรงกลางเช่น bass, snare, kick และเสียงร้องนำ
1.Phase
เวลาไฟล์เสียง wave หลุดphase มันจะทำให้บางย่านความถี่หายไปเวลาเราฟังเป็น stereo mix อาจฟังดูกว้าง แต่ถ้ารวมกับโมโนแล้วอาจทำให้เสียงบางความถี่หายไป
ทางที่ดีเราควรเช็คmix ในโมโนเป็นระยะๆ
โดยใช้ปุ่มโมโน หรือplugin บนMaster bus
เพราะควรที่จะฟังเพื่อหาเสียงที่หายไปหรือเสียงที่ขาดย่านเสียงสูง
ควรเทียบเสียงของ mixที่คุณทำเอง กับMix ของเพลงอื่นๆที่คุณชอบและไม่ชอบ
เพื่อให้คุ้นเคยกับการฟังแบบโมโน
2. อย่าให้Bassกินพื้นที่จนหมด
หลายเหตุผลที่เบสของเราควรจะเป็น mono เพราะว่า2.1 เนื่องจากย่านเสียงของเบสมันใช้พลังงานจำนวนมากในการกำเนิดเสียง และกินพื้นที่ในมิกซ์มากกว่าย่านเสียงกลางและสูง
การทำให้มันเป็นโมโนจะช่วยให้เรามีพื้นที่มากขึ้นให้กับเสียงย่านอื่นๆ
2.2 โดยทั่วไปSubwoofer จะเป็นโมโนอยู่แล้ว ดังนั้นเราทำเป็นโมโนเมื่อเอาไปเปิดที่อื่นที่มีSubwoofer เราจะได้ยินเสียงที่ถูกต้องเหมือนที่เราได้ยินนั้นเอง
2.3 การที่เราทำเสียงเป็น stereo มันอาจจะทำให้นำไปสู่ปัญหาของphase ได้(ในกรณีฟังในลำโพงที่เป็นโมโน) ซึ่งเสียงเบสมักจะมีปัญหากับเรื่อง Phaseค่อนข้างง่าย และยังจะทำให้ความชัดเจนและรายละเอียดบางอย่างมันหายไปอีกด้วย
ถ้าเรายังอยากให้เบสเราเป็นStereoอยู่ดีหล่ะ? ไม่ต้องกังวลไปหรอก
เพราะว่าสมองของคนเราไม่สามารถแยกแยะจัดกำเนิดเสียงของความถี่เสียงที่ต่ำกว่า 80 hz ได้นั่นหมายความว่า มันไม่มีข้อดีที่แท้จริงใดๆ ในการที่เราจะpanความถี่ที่ต่ำขนาดนั่นเป็น Stereoนั่นเอง
ให้เรามาโฟกัสความถี่ที่เหนือกว่านั้น แล้วทำให้มันรู้สึกกว้างขึ้นดีกว่า
เรามาดูวิธีกันเลย
- ถ้าเบสของคุณเป็น stereo ให้ก้อปเป็น 2 แทร็ก แล้วใช้ eq หรือ filter บนทั้งสองแทร็ก แทร็กแรกให้ใช้ low pass filter ที่ 80 hz แล้วทำให้มันเป็น mono ซะ แล้วอีกแทร็กให้ใช้ high pass filter เริ่มที่ 80 hz แล้วค่อยๆขยับขึ้นจนได้เสียงที่เคลียร์แล้วฟังรวมๆเป็นเสียงเบสเดียวกัน (เบสเราก็จะมี 2 track ด้วยกันคือ 1. Mono Bass ที่มีความถี่ต่ำกว่า 80hz 2.stereo bass ที่มีความถี่ที่มากกว่า 80hz)
- ถ้าเบสเราเป็น monoแล้วอยากได้ความกว้าง stereo ให้ copy แทร็กแล้วแล้วทำเหมือนด้านบน (track 1 low pass 80 hz , track 2 hi pass 80 hz) แต่ในแทร็คเบสความถี่สูง ถ้าเราจะทำให้มันรู้สึกเป็น stereo มากขึ้น ให้เราลองใช้ chorus หรือ delay ใน channel ซ้าย หรือ ขวา ของมัน และใช้ pitch shift อีกนิดหน่อยในแต่ละข้าง และอย่าลืมเช็คโดยการลองฟังเป็น mono ดูด้วยหล่ะ
- ใช้ reverb ที่มี reverb time สั้นๆ กับเบสที่เป็น mono แล้วตัดทุกอย่างที่ต่ำกว่า 200 Hz ที่ Send ของ reverb
3.Delay
ถ้าคุณอยากให้เสียงฟังดูใหญ่ขึ้นอาจใช้ stereo delayที่สั้นแต่ถ้าต้องการความลึกของเสียงหรือเสียงที่ฟังดูเหมือนอยู่ข้างหลังให้ใช้ mono delayที่ยาวๆ
4.Reverb
Reverb ส่วนมากที่เป็นดิจิตัลจะเป็น stereoอยู่แล้วแต่บางครั้งเราอาจอยากได้ reverb mono ใน mix
แต่ก่อนหน้านั้นถ้าเรากำลังอยากได้เสียง revrb แบบธรรมชาติก็ควรเป็น stereo
เพราะธรรมขาติมนุษย์ได้ยินเสียงแบบนั้น แต่กับเสียงร้อง กีต้าร์หรือบางครั้งกลอง
การใช้ mono reverb อย่างเช่นplate หรือspring reverb อาจเพิ่มความลึกของเสียง
และกันไม่ให้มันกินที่เยอะใน mix
อีก 2 วิธีที่จะเพิ่มความกว้างใน mix ด้วย reverb
- ใช้ mono reverb และแพนเสียง dry กับ wet ไปฝั่งตรงข้ามกัน
- ถ้าเสียงที่คุณกำลังจะทำต้องแพนมากลางให้ใช้ stereo reverb ที่สั้นกว่า 1 วิ
อีกอย่างที่ทำได้คือการใช้ mono reverb กับเสียงที่เป็น stereo จะให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในอุโมงค์
- ใช้ mono reverb และแพนเสียง dry กับ wet ไปฝั่งตรงข้ามกัน
- ถ้าเสียงที่คุณกำลังจะทำต้องแพนมากลางให้ใช้ stereo reverb ที่สั้นกว่า 1 วิ
อีกอย่างที่ทำได้คือการใช้ mono reverb กับเสียงที่เป็น stereo จะให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในอุโมงค์
*** บทความดังกล่าวเป็นเพียงบทความจากต่างประเทศที่นำมาแปลเพื่อแบ่งปันความรู้เท่านั้น
เทคนิคหรือข้อมูลต่างๆล้วนเป็นเทคนิคที่ไม่ตายตัว ซึ่งแตกต่างกันออกไป
เทคนิคหรือข้อมูลต่างๆล้วนเป็นเทคนิคที่ไม่ตายตัว ซึ่งแตกต่างกันออกไป
ดังนั้นควรปรับใช้ตามสถานะการณ์ที่แตกต่างกันออกไป หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางครับ
"ความรู้ต้องแบ่งปัน"
Mr arranger
Mr arranger
Thank you.
แปลโดย : Paul Mytri Wee
เรียบเรียง : kritswut Budtpoe
ภาพจาก : http://www.avsforum.com/klipsch-reference-premiere-hd-wireless-system-with-wisa
บทความจาก : https://theproaudiofiles.com/mono-in-a-stereo-mix/
แปลโดย : Paul Mytri Wee
เรียบเรียง : kritswut Budtpoe
ภาพจาก : http://www.avsforum.com/klipsch-reference-premiere-hd-wireless-system-with-wisa
บทความจาก : https://theproaudiofiles.com/mono-in-a-stereo-mix/
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมก่อนใครได้ที่
https://line.me/R/ti/p/%40mrarranger
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น